ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์
๏ พ่อวิตกอกใจไม่ปกติ จนดำริวิปริตผิดหลายเรื่อง หวั่นญาติพงศ์วงศ์วานทั้งบ้านเมือง โลหิตต้องนองเนืองธรนินทร์”
๏ “ขอเดชะพระบิดาการลานี้ มิใช่ที่เคืองบิดาแล้วลาถิ่น การณ์อันว่าลาแดนจากแผ่นดิน ฝากระบิลไว้กับท่านพระมารดร ๏ ขุ่นเคืองพระบิดาหาได้ไม่ ท่านผู้ให้ชีวามาแต่ก่อน มิก่อกรรมนำวิบัติขอตัดรอน แต่อยากวอนพระบิดาฟังวาที
๏ ซึ่งพระองค์ทรงวางใจให้อำนาจ ผู้ฉลาดทิ้งธรรมนำวิถี วางพระทัยมิได้ตรองให้ดี จึงเกิดมีเบื้องหลังตั้งชนวน
๏ อันคนพาลสันดานพิษย่อมคิดร้าย มุ่งยีย่ำทำลายให้ปั่นป่วน ให้ถือราชโองการนั้นมิควร เพราะแปรปรวนจากเมตตาของราชัน
รายนามผู้เยี่ยมชม : ลมหนาว ในสายหมอก, กร กรวิชญ์, ปลายฝน คนงาม, กอหญ้า กอยุ่ง, น้ำหนาว, ลิตเติลเกิร์ล, รพีกาญจน์, ฟองเมฆ, ก้าง ปลาทู, หนูหนุงหนิง, ปิ่นมุก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์
๏ ขอเรียกหาโหราจารย์ท่านผู้เฒ่า แลพระองค์ทรงกล่าวเล่าความฝัน ตามนิมิตคิดว่าร้ายทั้งหลายนั้น มายืนยันอีกสักปากลูกอยากฟัง”
๏ ราชันให้เสนาหาอำมาตย์ ไปตามราชโหราเมื่อมานั่ง เล่าซ้ำความตามนิมิตมิผิดพลั้ง โหราตั้งกระดานขานทำนาย
๏ “อันตะในนิมิตนั้นยืนยันว่า ผู้ที่มาจากอุระพระฤๅสาย คือองค์ราชบุตรวิสุทธิ์กาย ทักษิณาโลกาหมายก้องกำจร ๏ โลกทั้งสามเทิดพระนามในภายหน้า ทรงบุญญา พระยศปรากฏกระฉ่อน ตำรานี้ชี้ชัดมิตัดรอน พระภูธรนิมิตฝันอันทรงคุณ”
๏ จบคำของโหราในครานั้น ความสำคัญตรงเจตเหตุเกื้อหนุน ผลอนันต์สรรค์สร้างในทางบุญ ราชาวุ่นทัศนะกลางพระทัย
รายนามผู้เยี่ยมชม : ก้าง ปลาทู, กร กรวิชญ์, ปลายฝน คนงาม, ลมหนาว ในสายหมอก, รพีกาญจน์, กอหญ้า กอยุ่ง, ฟองเมฆ, ลิตเติลเกิร์ล, หนูหนุงหนิง, น้ำหนาว, ปิ่นมุก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์
๏ ราชบุตรปุจฉาพระฤๅสาย “การทำนายโหรามีหน้าที่ไหม มิเรียกหาท่านมานั้นด้วยฉันใด ลูกยังมิเข้าใจในข้อนี้” ๏ “ปุโรหิตว่าโหรามาเลือนหลง เฒ่าชะแรแก่ลงจนเหลือที่ เขานั้นเคยเรียนรู้ได้ครูดี พ่อจึงมีความวางใจให้ทำแทน”
๏“พระองค์ฟังความข้างเดียวจริงเจียวหนอ กรรมจึงก่อให้ลูกทุกข์เหลือแสน ถึงวาระลูกจะไปไกลดินแดน สมมาตรแม้นเขาตั้งความหวังมา
๏ หากพระองค์เชื่อตามคำทุกสิ่ง อันตรายมากหลายจริงยิ่งนักหนา ศัตรูร้ายใดที่หมายบีฑา ยังด้อยกว่าคนใกล้ชิดที่คิดคด
๏ ไม่ระแวงระวังด้วยวางจิต ถูกหรือผิดเชื่อคำตามทั้งหมด ภัยพิษงูมิสู้พิษมิตรทรยศ ผู้ทรงพรตพ่ายมารในหัวใจตน
รายนามผู้เยี่ยมชม : ก้าง ปลาทู, กร กรวิชญ์, ปลายฝน คนงาม, ลมหนาว ในสายหมอก, รพีกาญจน์, กอหญ้า กอยุ่ง, ฟองเมฆ, ลิตเติลเกิร์ล, หนูหนุงหนิง, น้ำหนาว, ปิ่นมุก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์
๏ ประมวลการณ์อันนี้ตามที่คาด ปุโรหิตติดอำนาจขาดกุศล เมื่อซึ้งความตามแต่องค์พระทรงพล จะแก้กลที่เขาวางไว้อย่างไร” ๏ ครานั้นอาทิตย์ราชอนาถนัก ผิดพลาดหนักจริงแท้ยากแก้ไข สั่งมหาอำมาตย์พลันในทันใด “จงรีบไปจับปุโรหิตร้าย
๏ ตัดหัวมันเสียบประจานรู้กันทั่ว ที่ทำตัวชั่วช้าพาเสียหาย มิสมดังวางฤทัยไปมากมาย ยังกลับกลายคิดคดกบฏรัช”
๏ อำมาตย์รับกระทำตามบรรหาร พวกใจมารทั้งผองต้องกำจัด ลงโทษทัณฑ์เหตุอันใดชี้ให้ชัด เป็นการตัดผู้เอาอย่างทางมิดี
๏ พระสุธนทูลลาคืนปราสาท หลังราชาอนุญาตสู่ไพรศรี ถึงอย่างไรยื้อไม่อยู่รู้ข้อนี้ พระภูมีจำอำนวยอวยพรชัย
รายนามผู้เยี่ยมชม : ก้าง ปลาทู, กร กรวิชญ์, ปลายฝน คนงาม, ลมหนาว ในสายหมอก, รพีกาญจน์, กอหญ้า กอยุ่ง, ฟองเมฆ, ลิตเติลเกิร์ล, หนูหนุงหนิง, น้ำหนาว, ปิ่นมุก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์
๏ เสด็จถึงวังทองเห็นห้องหอ น้ำตาคลอปวดดวงมานปานตักษัย พระยี่ภู่ดูว่างร้างอาลัย ทรงร่ำไห้กอดพระเขนยเคียง
๏ “แท่นพระที่มีเราสองครองสุขสันต์ มาเงียบงันร้างกายไร้สรรพเสียง ภาพอดีตชิดใกล้ได้ร่วมเรียง กลับเหลือเพียงรอยเลือนรางกลางอารมณ์
๏ โอ้อกเอ๋ยมิเคยคิดรักฤทธิ์ร้าย พังทลายลงครืนให้ขื่นขม รักแสนหวานพานสลายกลายเป็นลม คงต้องตรมเช่นนี้ชั่วชีวิน”
๏ มิอาจจักพักผ่อนนอนหลับใหล ร้อนฤทัยอยู่ในห้วงห่วงถวิล เตรียมข้าวของยามต้องไปไกลธานินทร์ คว้าศรศิลป์ออกเดินทางร้างเวียงวัง
๏ ตัดสินใจบ่ายหน้าสู่ป่าแน่ มิหันแลพระปรางค์ที่ข้างหลัง ปณิธานการณ์นี้ไปไม่หยุดยั้ง ตราบที่ยังมิพบน้องมโนราห์
รายนามผู้เยี่ยมชม : หนูหนุงหนิง, ลมหนาว ในสายหมอก, กร กรวิชญ์, ฟองเมฆ, รพีกาญจน์, น้ำหนาว, ลิตเติลเกิร์ล, กอหญ้า กอยุ่ง, ก้าง ปลาทู, ปลายฝน คนงาม, ปิ่นมุก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์
๏ บ้านพรานบุญผู้คุ้นเคยอยากเอ่ยถาม มูลเค้าความหนหลังหวังปุจฉา ชาวบ้านชี้ทางไปสู่ปลายนา ถึงชายคาเรียกขานพบพานพลัน
๏ พรานบุญตื่นตระหนกอกระทึก มิได้นึกเสด็จหากะทันหัน ลงเบื้องล่างล้างบาทาอภิวันท์ ก่อนชวนกันขึ้นเคหาต่อพาที
๏ ยกขันน้ำนำหมากพลูสู่ที่ตั่ง แล้วลงนั่งเจรจา “มาถึงนี่ เยี่ยมเยียนกันดูหม่อมฉันนั้นอยู่ดี หรือยังมีธุระประการใด”
๏ “ขอให้เล่าเค้าหลังแต่ครั้งต้น พี่สืบค้นมโนราห์มาจากไหน บัดนี้นางคืนยังวังเวียงชัย อยากถามไถ่ปัญหานานาประการ”
๏ “กรุงไกรลาสนิวาสไกลเกินใฝ่หา นางเหินฟ้ามาสรง ณ สระพิศาล ใกล้กุฎีฤษีริมหิมพานต์ จับนงคราญนั้นได้ในคงคา”
รายนามผู้เยี่ยมชม : หนูหนุงหนิง, ลมหนาว ในสายหมอก, กร กรวิชญ์, ฟองเมฆ, รพีกาญจน์, น้ำหนาว, ลิตเติลเกิร์ล, กอหญ้า กอยุ่ง, ก้าง ปลาทู, ปลายฝน คนงาม, ปิ่นมุก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์
๏ “สัญจรไพรให้ถึงซึ่งถิ่นนั้น ทิศใดกันมั่นหมายใคร่ปุจฉา” “พระองค์ไปหนใดนั้นฉันนำพา เนินวนาย่างย่ำจนชำนาญ”
๏ “เรื่องส่วนตนอย่ามีผลถึงคนอื่น คงนานนักจักได้คืนราชฐาน หรือชีวันนั้นอาจจะมลายลาญ มิเป็นการขอว่าอย่าไปเลย”
๏ พรานบุญว่า “หาถูกต้องมองการณ์สั้น เพราะหม่อมฉันผู้ก่อไว้ใช่ไหมเอ่ย หมายต่อสานงานประสงค์ให้ลงเอย ดังเฉลยพระบุตราอย่าเกรงใจ”
๏ “ถ้ากระนั้นเมื่อพรานพี่มีใจช่วย คิดอำนวยก็มิขัดอัชฌาสัย ขอพี่นำสู่วนามุ่งหน้าไป แค่พอให้เห็นกุฎีฤษีพอ ๏ จักขอบใจในการอันช่วยนี้ ย่อมมิดีหากจะพาเดินหน้าต่อ พี่ก็มีลูกเมียต้องครองพะนอ สิ่งที่ขอถ้าตกลงปลงใจตาม”
รายนามผู้เยี่ยมชม : หนูหนุงหนิง, ลมหนาว ในสายหมอก, กร กรวิชญ์, ฟองเมฆ, รพีกาญจน์, น้ำหนาว, ลิตเติลเกิร์ล, กอหญ้า กอยุ่ง, ก้าง ปลาทู, ปลายฝน คนงาม, ปิ่นมุก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์
๏ พรานบุญพร้อมยอมความตามที่ว่า ล่วงพ้นริมหิมวาน่าเข็ดขาม รู้บุญน้อยด้อยเดชฤทธิ์ใจคิดคร้าม มิอาจข้ามวนามายามนต์
๏ เมื่อตกลงปลงใจได้ทั้งสอง ตามครรลองแห่งเจตน์และเหตุผล พรานขอพักเจราสาละวน การเตรียมตนลำเลียงเสบียงกรัง
๏ เป็นถั่วงาปลาแห้งแป้งสาลี ตามเคยที่ออกไพรสณฑ์แต่หนหลัง ยาสำคัญ มันมะพร้าวอีกข้าวตัง เมื่อสมดังต้องการพรานกล่าวคำ ๏ “พระองค์ควรค้างพักสักคืนก่อน นี่ไม่นานตะวันรอนจะค่อนค่ำ” “ไปทันทีเมื่อพี่พร้อมจะน้อมนำ หมายตรากตรำย่ำย่างร้างแรมไพร”
๏ พรานยินคำจำนงลงเคหา นำมุ่งหน้าเดินตรงสู่ดงใหญ่ แล้วปรึกษาวาทะเฉลยนัย “ขอพระองค์จงได้ฟังวาที
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์
๏ จักถ่ายทอดตลอดทางกลางไพรสัณฑ์ ซึ่งหม่อมฉันรู้ใดเรื่องไพรศรี การกิน พัก จักหลีกภัยในพงพี ก่อนจะลุถึงกุฎีมีเวลา”
๏ พระสุธนสนใจที่หมายสื่อ มิดึงดื้อรู้ดีมากมีค่า พรานไพรจะประสิทธิ์วิทยา ที่สืบทอดกันมาหลายชั่วคน ๏ ยิ่งเข้าในไพรพฤกษ์ลึกรกชัฏ เริ่มเลาะลัดยากครันยังดั้นด้น ก่อนตะวันผันลาพากังวล พรานชวนพระสุธนหาที่พัก ๏ สอนวิชานิทราไพรให้ข้อแรก อธิบาย “ให้จำแนกเป็นสองหลัก หนึ่งถ้ามีเวลาทำที่พำนัก ขัดห้างมักให้อยู่เหนือธรณี
๏ ข้อที่สองมองเห็นว่าเวลาน้อย มิอาจคอยด้วยค่ำไวไพรวิถี จำต้องหาคาคบไม้ต้นใดมี ให้พอที่เอนอิงพักพิงกาย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์
๏ ใบไม้สรรกันน้ำค้างกั้นกางฝน พอข้ามพ้นราตรีเหมือนที่หมาย ความสูงดูอยู่ด้านบนพ้นสัตว์ร้าย สามารถย้ายเปลี่ยนท่าเวลานอน”
๏ พระสุธนสนใจความตามที่ว่า สอดสายตาขึ้นด้านบนวนเวียนว่อน ดุจวิหคนกกาบินหาคอน เห็นปางไม้หลายอันซ้อนในสุมทุม ๏ ถามพรานว่า “คาคบที่ฉันชี้นั่น เปลือกไม้มันเรียบดีมิมีตุ่ม กิ่งแผ่ผายหลายคอนชะง่อนงุ้ม ใบปกคลุมแน่นหนาพี่ว่ากระไร”
๏ “พระองค์ควรขึ้นไปดูให้ชัด คล่องหรือขัดท่านั่งนอนผ่อนคลายไหม หากอึดอัดขัดท่าหาต่อไป” พอเข้าใจพระสุธนโหนเถาวัลย์
๏ เมื่อถึงยังปางไม้เอนกายเล่น ไม่ดีเด่นแต่มิอับจนคับขัน กู่ก้องมาว่า “ใช้ได้สบายครัน ขอพี่นั้นหาแห่งหนของตนเอง”
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์
๏ พรานบุญฟังดังนั้นหันซ้ายขวา ปีนพฤกษาปุบปับกระฉับกระเฉง ใกล้ค่ำลงวงเรไรเริ่มบรรเลง เป็นเสียงเพลงกล่อมวนายามราตรี
๏ ผู้เดินทางกลางไพรต้องใจมั่น มิเขลาขลาดหวาดหวั่นพรั่นภูตผี เสียงสัตว์ร้ายใดใดมิไยดี ชั่วคืนที่สงบจิตสุขนิทรา
๏ แสงสุรีย์สีทองส่องฟ้าใส ลงสู่พื้นพงไพร ล้างใบหน้า จัดเสบียงเรียงตั้งทั้งข้าวปลา พรานบุญว่า “วันนี้เรียนสีไฟ
๏ ถ้าหน้าแล้งฟืนแห้งดีมิลำบาก มักฟันถากผิวไม้ใช้ขุยไผ่ การเสียดสีวิธีทำสำแดงไว้ หน้าฝนใช้หินประกบแล้วตบตี
๏ การเดินทางกลางวนาเรื่องอาหาร มิควรกินจนอาการอิ่มเต็มที่ ยามเดินทางจะอึดอัดขัดท่าที เคล็ดเหล่านี้มีส่วนควรคำนึง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์
๏ เมื่อเสร็จสรรพดับไฟให้สนิท อย่าให้ติดขึ้นภายหลังอีกครั้งหนึ่ง พระสุธนสนใจฟังอย่างลึกซึ้ง เรียบร้อยจึงชวนเชิญกันเดินทาง
๏ ช่วงไม้ป่าหนาแน่นเดินแสนยาก ทั้งกิ่งคั่นก้านขวากต้องถากถาง มีที่เพลินเดินสบายชมไพรพลาง เมื่อพื้นล่างโล่งตาหญ้าไม่มี
๏ จนใกล้ย่ำสนธยาหาที่พัก ขอตั้งหลักผ่อนคลายกลางไพรศรี อย่างน้อยค้างกลางวนาเจ็ดราตรี ก่อนจะถึงซึ่งกุฎีสิทธาจารย์
๏ พร้อมเดินทางมิร้างราหาความรู้ หลายหมวดหมู่ “วันนี้ว่าเรื่องอาหาร ผลไม้ในวนาถ้าพบพาน เหมือนพื้นบ้านหลากหลายในพงพี
๏ มะม่วง กระท้อน หว้า พลา มะไฟ ที่แน่ใจว่ารู้จักเป็นสักขี เลือกกินไล่เล็มไปได้ทันที ผลใดที่แปลกตาอย่าเพิ่งกิน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์
๏ เห็นนกกาหรือว่าสัตว์จัตุบาท มันสามารถกินได้หมายถวิล เรากินได้มิตายแน่แต่มิชิน เรื่องรสกลิ่นและแสลงมีแฝงมา
๏ ที่แน่ใจได้หนาพวกวานร มันกินก่อนเรากินได้ไร้ปัญหา พลาดกินผลไม้พิษจะมรณา ยินเขาว่ามีมากหลายในหิมวันต์
๏ ไร้อาหารพานให้หาวานรยาก ต้องจับจากย่านอื่นไปในเขตขัณฑ์ มีเคล็ดลับการจับวานรนั้น ต้องคัดสรรหวายน้ำทำบ่วงคล้อง
๏ แต่งบ่วงให้เรียวคล้ายปลายยอดหญ้า ย่องช้าช้าเข้าใกล้สายตาจ้อง ได้จังหวะตวัดรัดดังปอง ตัวไหนร้องเจียนจะตายให้ปล่อยไป
๏ บางตัวนั้นสัญชาตญาณมันมากหลาย ดิ้นจนตายนำพาหาได้ไม่ ต้องหาตัวกลัวอีกอย่างเหมือนต่างใจ หงอมิได้ดิ้นนักจึ่งจักดี
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์
๏ ค่อยลูบหัวตัวมันมินานคุ้น จึงเจือจุนชิมผลไม้ได้เต็มที่ พรานแนะนำทำให้ดูรู้วิธี จรลีไปพลางกลางพงไพร
๏ ค่ำพักค้างรุ่งสางคงเดินดงต่อ มากหัวข้อหลักการพรานสอนให้ เป็นวิชาพาตนหลีกพ้นภัย ยามท่องในวนาเอกากาย
๏ พระสุธนสนใจใฝ่เรียนรู้ ความเป็นอยู่ในดงดอนกินนอนง่าย ข้างหน้ามีอุปสรรคอีกมากมาย คงมิคลายความหวังตั้งมั่นมา
๏ วันนี้พรานบุญว่าเรื่องหาน้ำ ต้องน้อมนำก่อนขึ้นเขินแนวเนินผา แต่หมดไป ไม่พอบ้างเป็นบางครา ต้องรู้จักหลักการหาน้ำมากิน ๏ ถ้าฝนตกหยกหยกผ่านมินานมาก หาได้จากพวกแอ่งหรือแก่งหิน ถ้าแล้งนานพานเหือดหายลงใต้ดิน ครองชีวินด้วยน้ำตามเถาวัลย์
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์
๏ หาเถาวัลย์อันใหญ่ยาวเท่าแขนขา ฟันให้สูงสักสองวาขาดสะบั้น แล้วรีบตัดข้างล่างให้ใกล้โคนพลัน กระบอกไผ่ตัดใหม่นั้นมารองรับ
๏ แม้ได้น้ำถึงสองสามกระบอกไผ่ ห้ามวางใจหลงปลื้มดื่มปุบปับ ดูเยื่อไผ่ไม่เปลี่ยนสีที่ซึมซับ จึงจะนับว่าดื่มได้ไร้พิษภัย
๏ พระสุธนด้นวนาศึกษาศิลป์ การอยู่กินใช้ชีวากลางป่าใหญ่ จนมาถึงปลายทางที่วางไว้ พอลับเหลี่ยมไศลเห็นกุฎี
๏ มิกว้างใหญ่ซ่อนในสุมทุมพฤกษา จึงยินคำ “เราอำลากันที่นี่ ขอบใจยิ่งสิ่งทั้งหลายได้ปรานี ขอให้พี่คืนหลังยังปัญจาล์”
๏ พรานอำนวยอวยชัยให้สมมาด ก่อนนิราศลาลับกลับเคหา ถือสัจจะกระทำตามสัญญา จำร้างราอาลัยจากไกลแล้ว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|