ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้า ๖๐ ๏ พระดาบสฟังความตามที่กล่าว เป็นเรื่องราวกรรมนำพาน่าสงสาร จึงเล็งไปด้วยเนตรวิเศษญาณ อนาคตกาลของราชินี
๏ และพระนลราชาเบื้องหน้านั้น จะสุขสันต์ปรีดิ์เปรมเกษมศรี ทำนายชอบปลอบขวัญทมยันตี เพื่อเกิดมีความหวังคลายกังวล ๏ “โอ้เอกองค์ทมยันตีนารีนาถ จงฟังอาตมาอย่าสับสน คำทำนายหมายสิรินิรมล พอผ่อนปรนทุกข์นางกลางอรัญ
๏ มินานนักจักเรืองรุ่งดั่งมุ่งมาด คืนครองราชย์ยิ่งใหญ่ไอศวรรย์ สองพระองค์ทรงสุขศานต์ปานเทวัญ ความสำคัญนี้จงโน้มประโลมใจ”
๏ สิ้นคำลงทรงฤทธิ์พระสิทธา พลันหายวับไปกับตาหาเหลือไม่ อาศรมแล้แม้อายอุ่นกรุ่นควันไฟ เหลือแต่ไพรพฤกษานานาพรรณ
๏ องค์ทมยันตีมิรอช้า เดินพนาต่อไปอกไหวหวั่น รำลึกการณ์ที่ผ่านมาพางงงัน ลืมตาฝันหรือว่าข้าเพ้อพก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้า ๖๑
๏ หากภาพฝันนั้นมิน่าจ้ากระจ่าง นี่สว่างกลางจิตคิดไม่ตก พระคิดเพลินเดินพลางกลางพงรก ในหัวอกร่ำหาสวามี
๏ ผ่านไทรใหญ่รากย้อยห้อยระย้า เฝ้าถามหาพระนลมิหน่ายหนี พบอโศกยิ่งโศกทับนับทวี พนาลีมีแต่ตรมระทมฤทัย
๏ ผ่านอรัญอันลำบากยากนักหนา ข้ามละหารธารผาหลืบไศล ช่องบรรพตคดเคี้ยวลดเลี้ยวไป ถึงทางใหญ่กลางอรัญคนสัญจร
๏ จึงพบกลุ่มพ่อค้าชาวพานิช แถวตามติดจอแจแลสลอน รถเทียมม้ายานล้อหมุนเทียมกุญชร หลังอูฐซ้อนสัมภาระกองพะเนิน
๏ มากผู้คนขนของต้องแบกหาม เดินมาตามแนวทางหว่างเขาเขิน หลากหลายวัยแต่ไม่แก่แลเด็กเกิน ชำนาญเดินมิถลาละล้าละลัง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้า ๖๒
๏ ทมยันตีดีใจหมายไต่ถาม สืบเค้าความสวามีที่คาดหวัง ภายหน้าทุกข์อาจจะพอประทัง จึงไปยังหมู่ประชาคาราวาน
๏ สารรูปซูบผอมแสนซอมซ่อ บ้างหัวร่อ บ้างพะวงคิดสงสาร บ้างสมเพชเวทนาหลายอาการ มีที่พาลเย้ยว่าอีบ้าบอ
๏ มีมิน้อยถอยตัวกลัวเป็นผี ถือไม้อยู่ขู่จะตีเข้าจี้จ่อ ตัวอัปรีย์ชี้หน้าแล้วด่าทอ พร้อมมาออด้วยท่าทางต่างกันไป
๏ ยินเอะอะโวยวายนายพ่อค้า แหวกวงล้อมเข้าหาแล้วปราศรัย เป็นสุนทรอ่อนหวานซ่านซึ้งใจ “จงเผยนัยแจ้งกมลคนเดินทาง”
๏ เมื่อฟังนายพ่อค้าว่ากระนั้น จึงจำนรรจ์พาทีมิอางขนาง “เราทุกข์ทนด้นมากลางป่าร้าง อกหมองหมางเพราะพลัดภัสดา
๏ เวรกรรมพรากจากกันไปในพนัส อัตคัดไกลถิ่นสิ้นวงศา มิรู้ทิศรู้ที่มีมรรคา ซัดเซมาพบท่านเป็นการณ์ดี”
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้า ๖๓
๏ “เคยพบเห็นภัสดาข้าหรือเปล่า ตามลำเนาสองข้างทางวิถี อันพระองค์ทรงผ้าพันกายี ผืนเดียวกันอันข้านี้ใช้อยู่นั้น”
๏ นายพ่อค้าว่า “ระหว่างอยู่กลางป่า สัตว์นานาเล็กใหญ่เนาไพรสัณฑ์ นกชะนีหมีช้างกวางหลากพันธุ์ พยัคฆาเจ้าอรัญผู้ดุร้าย
๏ ท่านบุญปลอดรอดมามิน่าเชื่อ สัตว์ร้ายเหลือภูตผีป่าน่ากลัวหลาย ผู้คนใดไม่เคยพบประสบกาย ตลอดสายเดินทางกลางพงไพร”
๏ “ท่านยินลูกค้าที่ปฏิสันถาร เขาโจษขานถึงพระนลอยู่หนไหน หรือยินข่าวแพร่งพรายมาว่าฉันใด โปรดเห็นใจให้สำแดงแจ้งวาจา
๏ ถ้ามิมีที่ท่านไปหนใดเล่า ขอให้เราติดตามไปได้ไหมหนา เอาพระคุณอุ่นใจยามไคลคลา เปลี่ยวกายาเดินเดียวเสียวใจเกิน”
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้า ๖๔
๏ “อันที่จุดหมายปลายทางข้างหน้านี้ แคว้นเจทีใหญ่กว้างหลังเขาเขิน ระยะทางประมาณเจ็ดวันเดิน ผิดประเมินจากนี้มิมากมาย
๏ สุพาหุราชันอันเรืองศักดิ์ ทรงปกปักปวงชนสุขล้นหลาย เมืองรุ่งเรืองโอฬารร้านโรงราย การค้าขายคล่องดีมีกำไร”
๏ จบคำว่าสั่งคาราวานเคลื่อน เข้าสู่เถื่อนแถวทางหว่างไศล ขึ้นแล้วลงเนินชันลดหลั่นไป จวนเย็นได้มาถึงบึงบัวงาม
๏ สาโรชสวยรวยรินส่งกลิ่นหอม น้าวจิตน้อมทมยันตีฤดีหวาม คล้ายบุหงาอบผ้าทรงของนงราม โอ้ในยามนี้ผ้าปิดมิมิดตัว
๏ กลุ่มพ่อค้าทั้งหลายได้อาบน้ำ เขาชื่นฉ่ำคลอเคลียคู่เมียผัว ดูเริงรื่นชื่นฤดีมิหมองมัว อกระรัวตัวเราคว้างคู่ร้างรา
๏ ริมสระน้ำงามล้วนมวลดอกไม้ อยู่วังในได้เชยชมดมบุปผา รื่นรมย์กลางสวนขวัญตระการตา ยามนี้มาไกลห้องหมองกมล
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้า ๖๕
๏ มวลผลไม้สุกงอมน้อมกิ่งห้อย บ้างร่วงลอยลงพื้นดื่นเกลื่อนกล่น ลิ้มชิมหวานมิซ่านจิตคิดกังวล พระทรงพลแลป่านนี้มิมีกิน
๏ อยู่วังทองน้องจัดคัดสรรให้ ผลไม้สลักประจักษ์ศิลป์ น้องคอยป้อนอ้อนเล่นเป็นอาจิณ โอ้ภูมินทรมาอ้างว้างกลางอรัญ
๏ หลังอาบน้ำเสร็จสรรพขยับย้าย มิห่างหลายเส้นนักจากบึงนั่น ด้วยมาถึงซึ่งเวลาย่ำสายัณห์ สั่งตั้งหลักพักค้างกันอีกหนึ่งคืน
๏ อูฐ ช้าง ม้าพาผูกไว้ได้ที่แล้ว ขึงฉากนั้นกันแนวที่ร่มรื่น ตั้งกระโจมกางมุ้งสาดปูลาดพื้น แลกลมกลืนผวยผ้าน่าพักนอน
๏ ทมยันตีเดินรี่มองจองที่หมาย เพื่อซุกกายเป็นเรือนเหมือนคืนก่อน คนตกยากฝากชีวาพนาดร โอบสองกรคุดคู้อยู่โคนไทร
[/color][/size][/font][/pre]
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้า ๖๖
๏ แล้วมาเกิดเหตุร้ายในกลางดึก มิมีใครรู้สึกนอนหลับใหล ด้วยเหนื่อยเกินเดินทางมากลางไพร มิมีเวรระวังภัยที่คืบคลาน
๏ โขลงช้างป่ามากินน้ำประจำอยู่ กลุ่มตัวผู้ตกมันพลันฮึกหาญ ได้กลิ่นช้างที่มาคาราวาน เกิดอาการคลั่งเตลิดกระเจิดกระเจิง
๏ นำโขลงวิ่งดิ่งไพรตรงไปหา โถมถลาตามกันถลันเหลิง กองค้านั้นพลันระเบิดแตกเปิดเปิง เร็วกว่าเพลิงเผาผลาญแหลกลาญลง
๏ ที่เจ็บหนักแขนขาหักน่าหดหู่ บ้างเดินดูทรัพย์แหลกแตกเป็นผง บ้างครวญคร่ำกำสรดแทบปลดปลง เพราะสูญพงศ์บุตรบิดาเมียสามี
๏ ยังวุ่นวายสับสนจนฟ้าสาง คนเดินทางมากมายกลายเป็นผี ยากคิดอ่านการใดต่อไปดี ทมยันตีรู้ข่าวใจร้าวราน
๏ แม้อยากจะเอื้ออวยช่วยเหลือบ้าง แต่ตัวนางไร้พลังของสังขาร สุดวิโยคโศกซึ้งถึงดวงมาน มิเคยพานเหตุร้ายใหญ่ก่อนมา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้า ๖๗
๏ คาราวานพานมลายหลายสถาน อับประมาณย่อยยับเกินนับค่า ญาติมิตรดับสูญทรัพย์สินสิ้นเงินตรา โถมิน่ามาเป็นเช่นนี้เลย
๏ หลายคนพร่ำวาจาว่า “เทวะ โอ้องค์พระที่บูชาแห่งข้าเอ๋ย เมื่อจะมาข้าบวงสรวงแล้วเอย ก่อนมิเคยวิบัติถนัดใจ
๏ หรือเพราะตัวกาลีนางผีร้าย อันฝากกายตามมาแต่ป่าใหญ่ เป็นเสนียดน่าเดียดฉันท์ตัวจัญไร จึงเกิดเหตุเภทภัยไม่เหลือดี”
๏ ทมยันตีเห็นท่าว่าจะแย่ เกิดตั้งแง่มาใส่ร้ายป้ายสี จึงถอยห่างย่างไกลพากายลี้ แต่ทันทีคนเหล่านั้นกรูกันมา
๏ ทมยันตีหนีไปบังหลังพุ่มไม้ พ่อค้าคลั่งยังรุกไล่บุกไปหา ดุ้นฟืนหินริมทางหยิบขว้างปา มิมีจิตคิดเมตตาว่าเป็นคน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้า ๖๘
๏ ทมยันตีนิ่งมิติงไหว ของเล็กใหญ่ลอยมาเหมือนห่าฝน สักครู่หนึ่งจึงพ่อค้าทุรชน ค่อยค่อยขนสินค้าลาลับไป
๏ โอ้ว่าทมยันตีขวัญหนีสิ้น คลำกายินปูดโปนโดนตรงไหน บุญคงป้องมิต้องของสิ่งใด ถอนฤทัยปลงจิตอนิจจัง
๏ เหล่าเทวัญนั้นคงลงมาคุ้ม ผู้ที่รุมทำร้ายไม่สมหวัง กุศลมีแต่ที่ช้ำพราะกรรมบัง โศกจึงฝังกลางใจไม่สร่างซา
๏ ยามรุ่งเรืองเฟื่องสุขทุกสถาน มากคนปองต้องการปรารถนา พอตกยากย่ำย่างกลางพนา เขาก็หาว่าชั่วตัวอัปรีย์
๏ เป็นเสนียดจัญไรไม่อยากเห็น นำโชคร้ายคล้ายเป็นเช่นภูตผี คิดแล้วทุกข์ทับถมตรมทวี ทมยันตีร่ำไห้ไปตามทาง
๏ เผอิญมีคณะพราหมณ์ตามมาพบ เมื่อนอบนบอำอวยช่วยทุกอย่าง ด้วยประพฤติพรหมจรรย์มั่นมิวาง หมายสรรค์สร้างความดีมีเมตตา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้า ๖๙
๏ เมื่อจุดหมายปลายทางนั้นไปกันได้ ตกลงให้คณะพราหมณ์ออกนำหน้า ทมยันตีเดินห่างห่างตามหลังมา ท่องมรรคคาสู่เจทีบุรีธรรม
๏ ครบเจ็ดวันดังว่าก็มาถึง เมืองใหญ่ซึ่งกล่าวนั้นมิทันค่ำ กำแพงพร้อมป้อมปราการโอฬารล้ำ เคียงคูน้ำเรียงรายชายกำแพง
๏ ปากทางเข้าเหล่าทหารตรวจการณ์อยู่ ทุกประตูพร้อมทั้งงามความแข็งแกร่ง เหมือนคนดงหลงมาท่าระแวง กระย่องกระแย่งสาวเท้าเข้าเมืองไป
๏ เมื่อพบปะผู้คนเขาสนเท่ห์ ค่อยร่อนเร่ไปยังกลางเมืองใหญ่ จะเอ่ยจำนรรจาเขาลาไกล มิมีใครที่พบคิดสบตา
๏ เดินเงอะงะกระเซอะกระเซิงเร่ ทั้งตุปัดตุเป๋เซถลา ชาวเมืองวังทั้งสิ้นกล่าวนินทา ล้วนคิดเห็นเป็นคนบ้าพากันเมิน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้า ๗๐
๏ มีแต่คนหัวเราะเยาะเย้ยว่า เป็นใบ้บ้าเพราะดูแต่แค่ผิวเผิน เด็กเด็กมาเป็นหมู่กรูกันเดิน สนุกเกินแหย่เล่นกันรำคาญใจ
๏ ได้แต่เบี่ยงเลี่ยงหนีมิโต้ตอบ มาถึงขอบกำแพงแห่งวังใหญ่ ตรงบัญชรพระมารดาแห่งราชัย น้ำพระทัยมีจิตคิดเมตตา
๏ ชี้ชวนพลางนางในให้เพ่งพิศ แม่มิ่งมิตรคงทุกข์หนักอนาถา จึงมีรับสั่งให้ไปชวนมา บุญนำพาบรรเทาเศร้าฤดี
๏ กุศลหนุนบุญพาเข้าปราสาท แห่งพระราชมารดากษัตริย์ศรี อภิวาทกราบพระบาทองค์เทวี ทรงถามทมยันตีสุพจนา
๏ “โอแม่พิมพ์ประไพวิไลรัตน์ เพชรจรัสติดตมธุลีหนา ดังจันทรซ่อนยังหลังเมฆา แม้กายาเปื้อนมลทินมิสิ้นงาม
๏ ช่วยแถลงแจ้งใจได้ไหมเจ้า กระไรเล่าความเป็นมาข้าขอถาม ด้วยฉงนจนงงแล้วนงราม เฉลยความเป็นมานั้นมีฉันใด”
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้า ๗๑
๏ แลครานั้นองค์ทมยันตี จึงตอบพระชนนีที่สงสัย ตรงตามความเป็นจริงทุกสิ่งไป แต่ละไว้เค้าเรื่องเมืองวิธรรภ์
๏ ด้วยยังมิจำนงจงใจย้อน คืนนครในวาระกะทันหัน เอ่ยวาจานอบน้อม “หม่อมฉันนั้น คือผู้ที่โศกศัลย์เหลือคณา
๏ ทุกสาหัสพลัดพระสวามี หวาดฤดีเคว้งคว้างอยู่กลางป่า ล้วนเรื่องราวพิสดารที่ผ่านมา จะกล่าวความตามสัจจาจากดวงใจ
๏ หม่อมฉันคือราชินีของพระนล พระทรงพลครองรัฐนิษัธใหญ่ สิบสองปีวิวาห์องค์พระทรงชัย สุขฤทัยเรื่อยมาจวบครานี้
๏ เมื่อพระองค์ทรงสกาพาวิบัติ ศักดิ์กษัตริย์สูญค่าสิ้นราศี การพนันผลาญทรัพย์สินสิ้นธานี เลยต้องลี้แรมร้างกลางพนา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้า ๗๒
๏ หม่อมฉันรักภักดีมิเสื่อมสิ้น ตามภูมินทร์เผชิญภัยในราวป่า ลูกบาศก์ร้ายทำลายล้างมิร้างรา จนเราสองต้องใช้ผ้าผืนเดียวกัน
๏ พระองค์รู้สึกผิดจิตวิตก ดุจนรกหมกใจให้ไหวหวั่น อยากรับกรรมที่ทำไว้ทั้งหลายนั้น ให้ลงทัณฑ์ดั่งจำนงพระองค์เดียว
๏ มิอยากให้หม่อมฉันนั้นลำบาก ยอมรับกรรมจำพรากไปโดดเดี่ยว หวังดีแน่แต่ใจร้ายแท้เทียว ทิ้งเมียเปลี่ยวเดียวดายเดินร่ายไพร
๏ เชื่อพระองค์คงมีภูตผีร้าย เข้าสิงกายงำจิตผิดเพี้ยนใหญ่ มิเป็นตัวของตัวเองแต่อย่างใด หม่อมฉันนั้นมั่นพระทัยในความรัก ๏ นางเล่าความยามยากวิบากยิ่ง ทั้งเดินวิ่งลุกล้มลงจมปลัก มากภัยหมายทำลายชีพบีบคั้นนัก บุญพิทักษ์จึงรอดปลอดภัยมา
๏ เล่าความโศกสุดฝืนสะอื้นไห้ ชลนัยน์ไหลรินต้องผินหน้า จึงครานั้นวรราชมารดา พระทรงจำนรรจาปลอบยาใจ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้า ๗๓
๏ “แม่จงวางเรื่องเศร้าชั่วคราวก่อน ชำระองค์เปลี่ยนอาภรณ์ให้สดใส แล้วพักอยู่ด้วยกัน ณ วังใน การณ์ต่อไปจักตามหาสวามี
๏ มิต้องคิดให้หนักเราจักช่วย คอยอำนวยให้นางอย่างเต็มที่ ทวยทหารชาญชัยในเจที อีกเสนาบดีผู้ปรีชา
๏ ออกสืบค้นทั่วไปในชนบท และกำหนดเป้าหมายเข้าในป่า ทุกมณฑลทุกหนทางต่างพารา ช่วยตามหาพระนลอยู่หนใด”
๏ “โอ้พระราชมารดาปรานีนัก ชวนอยู่พักทั้งจักหาสามีให้ ฉันยังมีเรื่องมิควรกวนพระทัย ขอประทานอภัยใคร่ครวญดู
๏ ข้อกำหนดให้ละและปฏิบัติ เป็นคำสัจสืบมารักษาอยู่ จึงแจ้งไว้ให้พระแม่ได้รู้ จะเชิดชูหรือชังโปรดสั่งมา”
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้า ๗๔
๏ “แม้นพระราชมารดาอนุมัติ จะมิขัดความปรานีที่ปรารถนา คือการปฏิบัติวัตรกิจจา มิกินอาหารเป็นเดนของใคร
๏ มิล้างเท้าผู้ใดให้เสียศรี สวามีพระบิดา มารดาได้ หม่อมฉันมิวิสาสะกะชายใด ที่เป็นไปในด้านการเกี้ยวพา
๏ หากผู้นั้นล่วงล้ำเมื่อห้ามแล้ว ยังมิแคล้วยับยั้งเหมือนดังว่า ขอพระองค์ลงโทษผู้โฉดช้า ป้องเกียรติภัสดาบูชาภักดิ์”
๏ พระมารดาชอบใจจึงได้ตรัส ว่า “กษัตริย์เจทีก็มีหลัก เหมือนร่วมบรรพ์กันมาน่าชื่นนัก จะพิทักษ์เป็นคำมั่นและสัญญา”
๏ แล้วจึงสั่งนางในไปทูลเชิญ พระธิดาดำเนินเข้ามาหา กุมารีมีพระนามสุนันทา เฝ้าฟังคำบัญชาพระมารดร
๏ “พระนางนี้มีเลือดเนื้อเชื้อกษัตริย์ ที่ต้องพลัดพรากหลักแหล่งแห่งสมร เจ้าเป็นน้องวัยมิห่างอย่างแน่นอน จงอาทรเอื้อจิตมิตรไมตรี
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|