(หน้า ๓/๔)๑.เตมียชาดก
๒๑.พระเจ้ากาสิกราช..............วอนยาตรจะมอบสมบัติใหญ่
กองทัพ,สนมวิไล.........................ปรนนิบัติรับใช้เคียงกาย
ฤาษีตรัสอาตมา..........................จะเสื่อมหนาด้วยทรัพย์ขยาย
จะมีภริยาปราย...........................จะถึงตายด้วยประโยชน์ใด
๒๒.เหตุใดให้ความแก่...............ครอบงำแท้จะมัวเพลินไหว
ในโลกที่มีไซร้.............................ด้วยความแก่,ความตายอันรายเรียง
ประโยชน์ใดที่คอย......................หาทรัพย์ช้อยลูกเมียมาเคียง
อาตมาพ้นลี้เลี่ยง.........................จากเครื่องผูกแล้วมิหวนคืน
๒๓.ผลไม้สุกถึงภัย....................ร่วงหล่นไซร้สัตว์หลายสุดฝืน
ย่อมถึงเภพภัยยืน........................คือความตายฉันนั้นแน่นอน
ชนมากมายเห็นกัน.......................เช้า,เย็นพลันไม่เจอแล้วจร
ความตายไม่เว้นผ่อน.....................ให้ใครแต่ชนสูงลงมา
๒๔.เจ้ากาสิกราช.......................ทรงปราดเลื่อมใสขอบวชหนา
พร้อมทั้งเหล่าเสนา.......................ออกบวชผลามตามพระเตมีย์
ราชาอีกหลายองค์........................ทราบความบ่งผนวชตามคลี่
เตมิยฤาษี.....................................ลุ"อภิญญ์ฯ"เกิดพรหมโลกเอย ฯ|ะ
แสงประภัสสร
ที่มา ๑)สุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒๘ ขุททกนิกาย ชาดก ภาคที่ ๒ พระไตรปิฎกสำหรับประชาชนหน้า ๖๑๗
๒)ข้อคิดปริศนาธรรม:มหานิบาตชาดก ตอนที่ ๑ บำเพ็ญเนกขัมมบารมี เตมียชาดก
https://www.blockdit.com/posts/ชาดก=คือ เรื่องราวในอดีตชาติของพระโคตมพุทธเจ้า คือ สมัยที่พระองค์เป็นพระโพธิสัตว์บำเพ็ญบารมีอยู่ พระองค์ทรงนำมาเล่าให้พระสงฆ์ฟังในโอกาสต่าง ๆ เพื่อแสดงหลักธรรมสุภาษิตที่พระองค์ทรงประสงค์
โพธิสัตว์=พระโพธิสัตว์ คือ ผู้ที่จะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า คำว่า "โพธิสัตว์" แปลว่า ผู้ข้องอยู่ในพระโพธิญาณ
พระโคดมพุทธเจ้า,พระโคตมพุทธเจ้า=พระพุทธเจ้าในกาลปัจจุบัน
ภิเนษกรมณ์=การออกบรรพชาของพระพุทธเจ้า
อนุตต์ฯ=อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ คือ ญาณอันประเสริฐอันเป็นเครื่องตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หรือพระผู้ตรัสรู้เองโดยชอบ
ทศชาติ=คือทศชาติชาดก หรือ พระเจ้าสิบชาติ เป็นชาดกที่สำคัญ กล่าวถึงการบำเพ็ญบารมีใน ๑๐ ชาติสุดท้ายของพระโพธิสัตว์ ก่อนจะเสวยพระชาติมาเกิดเป็นพระโคตมพุทธเจ้า หรือเจ้าชายสิทธัตถะแห่งศากยวงศ์ ชาดกทั้ง ๑๐ เรื่อง เพื่อให้จำง่าย มักใช้พยางค์แรกของแต่ละชาติ (คือ เต ชะ สุ เน มะ ภู จะ นา วิ เว)
๑)ชาติที่ ๑ เตมียชาดก เพื่อบำเพ็ญเนกขัมมบารมี หมายถึง การออกบวช พระเตมีย์ใบ้ โอรสของพระเจ้ากาสิกราช แห่งกรุงพาราณสี
๒)ชาติที่ ๒ มหาชนก บำเพ็ญวิริยบารมี พระ
โพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นพระชนกกุมาร โอรสพระเจ้าอริฏฐชนก กษัตริย์เมืองมิถิลา
๓)ชาติที่ ๓ สุวรรณสามชาดก บำเพ็ญเมตตาบารมี พระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นพรหมฤๅษี
๔)ชาติที่ ๔ เนมิราชชาดก บำเพ็ญอธิษฐานบารมี พระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นพระเนมิราช โอรสเจ้าเมืองมิถิลา โปรดการบริจาคทานและรักษาพรหมจรรย์
๕)ชาติที่ ๕ มโหสถชาดก บำเพ็ญบารมี พระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็น พระมโหสถ บุตรเศรษฐีในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในนครมิถิลา เมื่อยังเยาว์ได้แสดงสติปัญญาเฉลียวฉลาด
๖)ชาติที่ ๖ ภูริทัตชาดก บำเพ็ญศีลบารมี พระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นนาคราชชื่อ ภูริทัต โอรสของท้าวทศรถแห่งเมืองนาค
๗)ชาติที่ ๗ จันทชาดก บำเพ็ญขันติบารมี พระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นจันทกุมาร โอรสของพระเจ้าเอกราชแห่งกรุงบุปผวดี
๘)ชาติที่ ๘ นารทชาดก บำเพ็ญอุเบกขาบารมี พระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นท้าวมหาพรหม นามว่า พระนารทะ ได้จำแลงกายเป็นนักบวชมาแสดงธรรมเทศนาสั่งสอนพระเจ้าอังคติกษัตริย์นครมิถิลา
๙)ชาติที่ ๙ วิธุรชาดก บำเพ็ญสัจจบารมี พระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นวิธุรบัณฑิต ผู้เป็นปราชญ์ในราชสำนักของพระเจ้าธนญชัยโกรัพยะแห่งกรุงอินทปัต
๑๐)ชาติที่ ๑๐ เวสสันดรชาดก บำเพ็ญทานบารมี เป็นชาติที่สำคัญ และบำเพ็ญบารมีอันยิ่งใหญ่ เรียกกันว่า มหาชาติ หรือมหาเวสสันดรชาดก เป็นเรื่องราวที่พระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นพระเวสสันดร โอรสของพระเจ้าสัญชัย และพระนางผุสดี แห่งนครสีพีรัฐบุรี ทรงบริจาคทานมาตั้งแต่ทรงพระเยาว์