Username:
Password:
บ้านกลอนน้อยฯ
ช่วยเหลือ
ค้นหา
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
บ้านกลอนน้อย - กลอนสบายๆ สไตล์ลิตเติลเกิร์ล
>>
คำประพันธ์ แยกตามประเภท
>>
นิยาย-เรื่องสั้น-บทความ-ความเรียง-เรื่องเล่าทั่วไป
>>
ทึกทักเอาเองว่าไม่เป็นไร
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: ทึกทักเอาเองว่าไม่เป็นไร (อ่าน 6939 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ลิตเติลเกิร์ล
.ผู้มีจินตนาการ.
จำนวนผู้เยี่ยมชม:
48906
ออฟไลน์
ID Number: 58
จำนวนกระทู้: 3786
|
|
ทึกทักเอาเองว่าไม่เป็นไร
«
เมื่อ:
15, มีนาคม, 2559, 05:14:08 AM »
บ้านกลอนน้อยฯ
Permalink:
ทึกทักเอาเองว่าไม่เป็นไร
ทึกทักเอาเองว่าไม่เป็นไร
...............
สมัยที่ทำงานในสำนักงาน เพื่อนคนหนึ่งชอบหยิบขนมบนโต๊ะเพื่อนใส่ปากเลย
ไม่ถามเจ้าของสักคำว่ากินได้ไหม...
พวกที่ชอบทึกทักเอาเองว่าไม่เป็นไรส่วนใหญ่ก็เป็นเพื่อนรักของเรานี่แหละ!
นักอ่านหลายคนบอกผมว่า เพื่อนถือวิสาสะหยิบยืมหนังสือไปอ่านแล้วไม่คืน
จึงต้องซื้อใหม่ เพราะคนเป็นเพื่อนมักถือคติ “ไม่เป็นไรหรอก ซี้กัน!”
เป็นเรื่องปกติไปแล้วที่เพื่อนโทรศัพท์มาหาแล้วพูดเลย
สรุปเสร็จสรรพว่าเราว่าง และอยากคุยด้วย
เพื่อนบางคนเปิดเพลงที่เขาชอบดังไปทั่วออฟฟิศ
เพราะทึกทักเอาว่าคนอื่นชอบเพลงแบบนั้นเหมือนเขา
อยู่หอพักหรือบ้านเช่าหลังเดียวกัน เพื่อนก็ถือวิสาสะเปิดตู้เสื้อผ้า
หยิบเสื้อผ้าของเราไปใช้เลย
เหล่านี้คือการถือวิสาสะหรือทึกทักเอาเองว่าไม่เป็นไร
การไม่คืนหนังสือสักเล่มหรือกินขนมสักชิ้นสองชิ้นไม่น่าจะเป็นเรื่องใหญ่โตอะไร
แต่บางครั้งการถือวิสาสะอาจไปไกลกว่าขอบเขตที่สมควร
เคยไหมที่เพื่อนบางคนมาเคาะประตูเยี่ยมโดยไม่บอกล่วงหน้า
การคิดถึงเพื่อนแล้วไปเยี่ยมก็เป็นเรื่องดี แต่หากโผล่เขามาผิดจังหวะอาจไม่ค่อยดี!
เพื่อนบางคนมาเยี่ยมพร้อมเด็กเล็ก บอกว่า “ฝากดูเด็กหน่อยซี รู้ว่าเธออยู่บ้านทั้งวัน”
บางคนยกกระเป๋ามาหนึ่งใบ บอกว่า
“เธอกำลังจะไปเยี่ยม (ชื่อคน) ที่ (ชื่อจังหวัดหรือชื่อประเทศ) ใช่ไหม?
ฝากของให้เขาหน่อย”
เพื่อนอาจไม่ทันคิดว่า บางทีเราอาจมีกระเป๋าเดินทางหลายใบ
บ้างเมื่อรู้ว่าเราจะเดินทาง ก็ยื่นรายการของฝากซื้อทันที
การถือวิสาสะบางอย่างเป็นเรื่องประจำวัน ซึ่งเมื่อเกิดขึ้นทุกวัน ก็คิดว่าเราเป็น ‘ของตาย’
บางคนมักมีนิสัยตัดสินใจให้คนอื่นเสร็จสรรพ เพราะคิดเอาเองว่าดีแล้ว หรือดีสำหรับเขาแล้ว
นานมาแล้ว ผมเคยอาศัยอยู่ในหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง
เพื่อนบ้านที่อยู่ไกลออกไปกรุณาส่งคนงานมาตัดต้นไม้หน้าบ้านให้
โดยไม่บอกกล่าวหรือขออนุญาต เพราะทนความรำคาญตาไม่ไหว
ที่ต้นไม้โตเกินมาตรฐานความงามของเขา เรื่องแบบนี้ก็เกิดขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ!
การทึกทักเอาเองว่าไม่เป็นไรยังปรากฏในเรื่องมารยาทพื้นฐาน
ที่เห็นบ่อยที่สุดคือการเอ่ยคำขอบคุณ
สังเกตไหมว่าบ่อยครั้งเราแสดงมารยาทที่ดีต่อคนแปลกหน้ามากกว่า
กับเพื่อนสนิทของเราเอง บางคนพูดจากับคนแปลกหน้าสุภาพมาก
แต่พูดกับคนรักห้วนเป็นมะนาวไม่มีน้ำ หรือมะนาวตากแห้งมาสามปี
สามีภรรยาที่อยู่ด้วยกันนานๆ ไม่มากคู่ที่ยังเอ่ยคำขอบคุณเมื่ออีกฝ่ายช่วยทำอะไรให้
ภรรยาดูแลสามีอย่างดี แต่สามีกลับมองไม่เห็น
เพราะคิดว่าคู่ครองของตนเป็น ‘ของตาย’ หรือ “ก็เป็นหน้าที่ของเธออยู่แล้วนี่นา”
ยิ่งน้อยคนขอบคุณคนรับใช้ ทึกทักเอาเองว่าไม่ต้อง ก็เป็นคนใช้นี่นา!
หลายคนไม่เคยขอบคุณพนักงานร้านอาหารเมื่อยกของกินมาเสิร์ฟ “ก็เป็นหน้าที่ของเขานี่”
ทว่าหน้าที่ก็คือหน้าที่ มารยาทก็คือมารยาท เป็นคนละเรื่องกัน
พ่อแม่ก็มีหน้าที่เลี้ยงดูลูก แต่มิได้หมายความว่าเราไม่แสดงออกความขอบคุณเมื่อท่านทำอะไรให้เรา
ผมโชคดีได้ใช้ชีวิตกับเพื่อนหลายคนหลายชาติในต่างประเทศหลายปี
เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ต้องอยู่อาศัยร่วมกับคนอื่น เช่าบ้านอยู่ด้วยกัน ใช้ห้องครัวห้องน้ำร่วมกัน
เป็นประสบการณ์ที่ดีอย่างหนึ่ง เพราะต่างคนต่างนิสัยกันเรียนรู้การใช้ชีวิตร่วมกับคนอื่นในภาคปฏิบัติ
มันช่วยให้เข้าใจเรื่องเอาใจเขามาใส่ใจเราดีขึ้น
คนทุกคนที่หัวใจ แม้แต่คนที่สังคมจัดว่าอยู่ในระดับล่างที่สุด ก็มีความรู้สึก
มารยาทเป็นเรื่องสากล มันมีสองด้านคือมีมารยาทกับไม่มีมารยาท
ไม่มีกลางๆ เคยสังเกตไหมว่าคนจำนวนมากเมื่อเผลอเหยียบเท้าคนแปลกหน้า
จะขอโทษทันที แต่เมื่อเหยียบเท้าลูกแล้วทึกทักเอาว่าไม่เป็นไร
ลูกไม่ถือสา คนกันเอง ไม่ต้องขอโทษ
อย่าทึกทักเอาเองว่าไม่เป็นไร เพราะมันเท่ากับว่าเราให้ราคาคนที่เรารักน้อยกว่าคนที่เราไม่รู้จัก
การทึกทักเอาเองอาจสร้างความเข้าใจผิด หรือส่งสารผิดๆ ให้อีกฝ่ายหนึ่งได้
ควรเอาใจเขามาใส่ใจเราเสมอ คิดเสมอว่าคนอื่นจะรู้สึกอย่างไร
สมัยที่ทำงานในสำนักงาน เพื่อนคนหนึ่งชอบหยิบขนมบนโต๊ะเพื่อนใส่ปากเลย
ไม่ถามเจ้าของสักคำว่ากินได้ไหม
วันหนึ่งเขาเห็นขนมปัง โอรีโอ ไส้ขาวบนโต๊ะ ก็คว้าหมับยัดใส่ปากทันที
เพื่อนๆ หัวเราะ เพราะขนมปัง โอรีโอนั้นถูกปาดไส้ขาวออก บีบยาสีฟันแทนไส้
คงเข็ดขนมปังยาสีฟันไปอีกนาน!
ขอบคุณบทความจาก
วินทร์ เลียววาริณ
www.winbookclub.com
12 มีนาคม 2559
รายนามผู้เยี่ยมชม :
รพีกาญจน์
,
ปลาย อักษร
,
กร กรวิชญ์
,
ปลายฝน คนงาม
,
Paper Flower
,
ลมหนาว ในสายหมอก
,
Black Sword
,
น้ำหนาว
,
ก้าง ปลาทู
,
หนูหนุงหนิง
,
กรกช
,
ณดาอินทร์
,
1p
,
หญิงหนิง พราววลี
,
อิงดาว พราวฟ้า
,
Mr.music
บันทึกการเข้า
..
สารบัญบทกลอน "ลิตเติลเกิร์ล"
..
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
บ้านกลอนน้อย ลิตเติลเกิร์ล - มยุรธุชบูรพา
-----------------------------
=> อ่านข้อกำหนด กฎระเบียบต่าง ๆ - สมาชิกใหม่ ทักทาย แนะนำตัวที่นี่
=> ห้องกลอน คุณอภินันท์ นาคเกษม
=> ห้องกลอน คุณคนบอ มือสี่
=> สารบัญกลอน สมาชิกนักกลอน
-----------------------------
ห้องเรียน
-----------------------------
=> ห้องเรียนรู้คำประพันธ์ ประเภทกลอน
=> ห้องเรียนฉันท์
=> ห้องเรียน กลบท
=> ห้องเรียน โคลงกลบท
=> ห้องศึกษา ภาพโคลงกลบท
=> ห้องศึกษา กาพย์ โคลง ร่าย
=> ห้องหนังสือ บ้านกลอนน้อย
=> ห้องฟัง การขับ เสภา และอื่น ๆ
-----------------------------
คำประพันธ์ แยกตามประเภท
-----------------------------
=> กลอน ร้อยกรองหลากลีลา
=> คำประพันธ์เนื่องในโอกาสพิเศษต่าง ๆ
=> กลอนธรรมะ-สุภาษิต-ปรัชญา-คำคม
=> กลอนเปล่าสบาย ๆ
=> กลอนจากที่อื่น และจากกวีที่ชื่นชอบ
=> โคลง-กาพย์-ฉันท์-ร่าย-ลิลิต
=> กลบท
=> นิยาย-เรื่องสั้น-บทความ-ความเรียง-เรื่องเล่าทั่วไป
=> ห้องนั่งเล่นพักผ่อน
===> เส้นคั่นสวย ๆ
===> รูปภาพน่ารัก
กำลังโหลด...